SNO-002

เนื้อเรื่อง

SNO-002 - "Dead Orchid"

Objective Class : Grim - อันตรายสูงสุด

มาตรการเก็บรักษา : SNO-002 ต้องถูกเก็บไว้ในห้องแช่แข็งที่อุณหภูมิ -90°C เป็นอย่างต่ำ และต้องมีคนคอยจับตาดูตลอดเวลา ถ้าอุณหภูมิห้องเพิ่มสูงกว่า-90°C เมื่อไหร่ ให้ปล่อยไฮโดรเจนเหลวจนท่วมห้องได้ทันที และถ้า SNO-002-2 หลุดออกมาได้เมื่อไหร่ ให้มีการอพยพบูคลากรทุกคนออกจากศูนย์วิจัย และให้ระเบิดศูนย์วิจัยทิ้งได้ทันที

ลักษณะ : SNO-002 เป็นต้นกล้วยไม้ดอกสีขาวที่เหี่ยวตายแล้ว แต่กลับยังสังเคราะห์แสงได้อยู่เรื่อยๆ และแม้ไม่มีน้ำหรือแร่ธาตุก็ยังสามารถเติบโตได้เรื่อยๆ โดน SNO-002 จะแบ่งเป็น SNO-002-1, SNO-002-2, และ SNO-002-3 ส่วนของ SNO-002-1 จะเป็นส่วนดอก ส่วนนี้จะคอยผลิต SNO-002-2 ซึ่งเป็นผงละอองสีเหลืองขุ่น ถ้าสิ่งมีชีวิตใดสัมผัสหรือสูดผงละอองนี้เข้าไป จะทำให้เป็นโรคประหลาด มี SNO-002 งอกขี้นตามตัวในระยะสุดท้าย ส่วน SNO-002-3 เป็นส่วนตั้งแต่ลำต้นไปจนถึงราก จากการทดลองพบว่า ส่วนนี้จะผลิดอก (SNO-002-1) ขึ้นมาใหม่หลังจากที่ดอกถูกทำลาย และมีความสามารถต้านทานความร้อนได้กว่า 1,000°C วิธีหยุดการเติบโตของ SNO-002 ไม่สามารถทำได้ด้วยการเผา เพราะแม้ส่วนดอกจะสลายไป แต่ส่วนลำต้นจะสร้างดอกขึ้นมาใหม่ได้ นอกจากนั้น ส่วนลำต้นเมื่อเจอความร้อน จะสร้างเมือกบางอย่างขึ้นปกคลูมลำต้นไว้ ทำให้สามารถทนทานความร้อนได้อีกถึง 1,500°C แต่สามารถทำให้ SNO-002 อยู่ในสภาพเสมือนตายได้โดยการแช่แข็งที่อุณหภูมิต่ำกว่า -73°C จะืทำให้ SNO-002-1 ไม่มีการผลิต SNO-002-2 ออกมา และืำทำให้ SNO-002 หยุดการเติบโตได้ด้วย แต่ SNO-002-2 จะสามารถเคลื่อนที่ในอากาศได้ดีที่อุณหภูมิต่ำ แต่สามารถทำลายได้ที่อุณหภูมิสูงกว่า 572°C พบว่าการทำลาย SNO-002 ได้ต้องทำลายให้ไม่เหลือซากโดยเฉพาะส่วน SNO-002-3 เพราะส่วนนี้จะงอกใหม่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว

โรค Orchid Plague : เป็นโรคประหลาดที่เกิดจาก SNO-002-2 มีอาการดังนี้
ระยะ 1 : หลังจากสัมผัสหรือสูด SNO-002-2 เข้าไป ผู้ป่วยจะยังไม่แสดงอาการอะไรเป็นเวลาประมาณ 72 ชม. แต่จะมีอาการหิวน้ำผิดปกติ
ระยะ 2 : ผู้ป่วยจะเริ่มมีจุดด่างดำขึ้นตามตัว และไอเป็นเลือดสีดำขุ่น
ระยะ 3 : ผิวหนังของผู้ป่วยจะเหี่ยวแห้งจนกรอบ ผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดใหญ่ ไอเสียงแห้งพร้อมเลือดสีดำขุ่น และจะไม่มีเรี่ยวแรง
ระยะ 4 : ดอกกล้วยไม้ SNO-002 จะงอกขึ้นตามตัวทั้งภายนอกและภายในร่างกาย เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง ผู้ป่วยจะตายลงในที่สุด
ระยะ 5 : ศพของผู้ป่วยจะปล่อย SNO-002-2 ออกมามากกว่าปกติ หลังจากนั้นประมา๊ณ 25 ชม. ศพจะสลายไปเอง แต่ SNO-002 จะยังอยู่